เมืองโบราณเกาะขมิ้น ช้างแทงกระจาด (ตอนที่ ๑)
แสนประเสริฐ ปานเนียม



พี่ตั้ม หัวหน้าคณะขุดสระ เล่าเรื่องเมือลับแลบนเกาะขมิ้น
กลางปีที่แล้ว ผมไปช่วยเพื่อนทำธุระเรื่องที่ดินแถวบ้านช้างแทงกระจาด ได้ลองเปิดภาพถ่ายดาวเทียมใน Google Maps ดู เห็นที่ดินแถวนั้นเป็นผังเกือบกลมขนาดใหญ่ รู้สึกว่าน่าสนใจ คิดอยู่ในใจว่า อาจจะเป็นเมืองโบราณ แต่ก็ยังไม่มีหลักฐานอะไรมาสนับสนุนความคิด
ปลายปีแวะไปธุระที่โรงเรียนห้วยทรายประชาสรรค์ ซึ่งอยู่ติดกับพื้นที่ดังกล่าว เลยลองให้ลูกศิษย์
คือนายวัฒนา โทธานี ที่ไปสังเกตการสอนที่นั่น ช่วยสืบความถามครูและนักเรียนในโรงเรียนดูว่า เคยมีใครทำไร่ไถนาแถวนั้นพบวัตถุโบราณอะไรบ้างหรือไม่ ลูกศิษย์ไปถามแล้วแจ้งมาว่า “ไม่มีใครพบอะไรครับครู”
แม้คำตอบจะไม่พบอะไร แต่อย่างไรก็ยังรู้สึกว่าที่ดินทรงกลมนี้ต้องมีอะไรแน่



เกาะขมิ้น มีผังเกือบกลม (ภาพจาก Google Maps)
วันปีใหม่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔ ผม พร้อม อาจารย์ฐานิสร์ พรรณรายณ์ คุณรังสิต จงฌานสิทโธ และคุณสุปรีด์ ณ นคร ชวนกันไปเที่ยวสำรวจด้านใต้ของเมืองเพชร เราไปที่บ้านท่ากระทุ่มกลัดหลวง ดูแม่น้ำเพชรที่งดงาม แล้วไปหาหมอเปลว เหมือนอ่วมที่บ้านทุ่งจับญวนฟังเรื่องป่าในเขตชะอำเมื่อหกสิบปีก่อน แล้วผมก็ชวนชาวคณะให้ลองไปดูพื้นที่ที่สงสัยกัน
เมื่อชาวคณะตกลง เราจึงขับรถเข้าไป ถนนจากหน้าโรงเรียนห้วยทรายประชาสรรค์ค่อย ๆ พาเราเข้าสู่ขอบพื้นที่ที่สันนิษฐานว่าเป็นเมืองโบราณนี้ ถนนที่ชาวบ้านทำขึ้นมาเพื่อสัญจรเข้าไปทำการเกษตรสร้างขึ้นบนขอบเนินดินทรงกลมแห่งนี้
เราจอดรถกันข้างถนนและชวนกันเดินขึ้นเนินไปสำรวจกัน ถ้าพบไม่พบอะไรก็จบการสำรวจ แต่ถ้าพบก็จะได้ความรู้ใหม่อีกสักชุด
จากถนนขึ้นไป ทางค่อย ๆ ลาดสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ จนถึงเกือบกลางเนินที่เราคิดว่าเป็นเมือง มีต้นมะขามใหญ่สองต้น ลมแรง ฟ้าสวยใสสด มองไปโดยรอบเห็นได้ชัดว่าพื้นที่ที่เราอยู่เป็นเนินสูง รอบ ๆ เนินไปที่ราบลุ่มต่ำ ชาวบ้านทำนา ทำไร่อ้อย ไกลออกไป มีเขาล้อมรอบ ทั้งเขาใกล้ ๆ อย่างเขาที่ช้างแทงกระจาด และเขาไกล ๆ อย่างเขากระโลงฟางในเขตติดต่อหนองพลับหัวหิน เป็นเนินที่วิวดีอย่างชนิดที่เห็นได้รอบ ๓๖๐ องศา
เราเดินสำรวจตามพื้น แล้วก็ได้พบเศษภาชนะดินเผา จากนั้นก็พบชิ้นส่วนตะกรันโลหะ เศษภาชนะกระเบื้อง หินลับ สักพัก อ.ฐานิสร์ ก็พบหินบดเป็นแท่นยาวคล้ายสาก



ลูกนิมิตโบราณวัดทุ่งหลวงร้าง หลวงพ่อแถมนำมาไว้ที่วัดช้างแทงกระจาด
เป็นอันว่าเราพบวัตถุ และตอบคำถามที่ตั้งไว้ได้แล้วว่า เนินดินแห่งนี้เป็นแหล่งโบราณจริง ๆ
เมื่อพากันเดินลงมา พบคนเลี้ยงวัวฝูง ได้คุยกันก็ยิ่งน่าสนุกขึ้นไปอีก ชาวบ้านช้างแทงกระจาดเรียกเนินดินที่เราขึ้นไปสำรวจว่า เกาะขมิ้น เป็นที่ผีดุ มีคนขุดพบข้าวของได้บ้าง เป็นเมืองลับแล บางทีก็จะได้ยินเสียงดนตรีปี่พาทย์อยู่เหมือนกัน ส่วนต้นมะขามสองต้นนั้นอยู่ในที่ของป้าทิพย์คนบ้านนี้
กลับขึ้นรถ เราขับรถวนรอบเกาะขมิ้น เห็นได้ชัดว่าบนเกาะเป็นเนินดินขนาดใหญ่ ชายเกาะเป็นที่ลุ่มต่ำ รอบเกาะเป็นที่นาและป่าอ้อย เราพบคนขับรถไถและแบ็คโฮกำลังขุดสระอยู่ชายเกาะ ทีแรกจะขับเลยไป แต่เห็นริมสะมีขวดน้ำแดงและดอกไม้ธูปเทียนปักอยู่ คิดว่าเขาคงต้องเคารพอะไรบางอย่างบนนั้น เลยลงแวะถามเรื่องเกี่ยวกับเกาะขมิ้น
พี่ตั้ม คนบ้านทุ่งหลวงเป็นหัวหน้าคณะขุดสระ บอกเราว่า บนเกาะนี้เป็นที่โบราณ บางคนว่าเป็นเมืองลับแล มีคนเคยขุดได้ถาดทองเหลืองสองใบ เอาไปถวายหลวงพ่อเมี้ยน (วัดช้างแทงกระจาด ต่อมาไปเป็นเจ้าอาวาสวัดหนองข้าวเหยียว สามร้อยยอด) และพี่ปราชญ์ที่ทำนาแถวนี้ก็เคยขุดเจออะไรอยู่บ่อย ๆ พี่ตั้มดูจะสนใจเรื่องของเมืองโบราณแห่งนี้มากจึงเล่าข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างน่าสนใจ แนะนำให้เราไปพบพี่ปราชญ์ และบอกให้แวะไปดูบ่อน้ำโบราณที่เรียกว่าบ่อเงินบ่อทอง ซึ่งอยู่บนเกาะเหมือนกัน
เราเข้าไปดูบ่อกัน พบว่าตื้นเขินลงแล้ว ขอบบ่อมีหินก้อนใหญ่ ๆ อยู่หลายก้อน



คุณสุปรีด์ ณ นคร คุณรังสิต จงฌานสิทโธ
และ
อาจารย์ฐานิสร์ พรรณรายณ์
ที่ต้นมะขามใหญ่บนเกาะขมิ้น