


กายดุริยางค์เกิดจากคำศัพท์๒คำคือกาย (กายยะ) หมายถึงตัว
ดุริยางค์หมายถึงเครื่องดีดสีตีเป่าเมื่อรวมแล้วคงแปลให้ได้ความหมายไพเราะว่าเครื่องดนตรีที่ทำด้วยอวัยวะของร่างกายคำศัพท์คำนี้มีเรื่องเล่า
เป็นเกร็ดสนุกๆเกี่ยวกับชาติกำเนิดของทศกัณฐ์ในเรื่องรามเกียรติ์
หลังจากที่นนทกถูกพระนารายณ์แปลงเป็นนางอัปสรสังหารแล้ว
นนทกก็ได้กลับมาเกิดเป็นทศกัณฐ์ส่วนพระนารายณ์ก็กลับมาเกิดเป็นพระราม
ศาสตราจารย์ดร.นิยะดาเหล่าสุนทรได้ศึกษาค้นคว้าคัมภีร์นารายณ์ยี่สิบปางและรวบรวมพิมพ์เป็นหนังสือชื่อว่าคัมภีร์นารายณ์๒๐ปางกับคนไทยพิมพ์โดยสำนักพิมพ์แม่คำผางปี๒๕๔๐ในคัมภีร์ดังกล่าวนี้เล่าเกร็ดเพิ่มเติมว่าเมื่อนนทกสิ้นชีพแล้วยังไม่ได้เกิดมาเป็นทศกัณฐ์ทันทีแต่เกิดเป็นอุปปาติกะ (หรืออาจจะใช้ว่าโอปปาติกะเป็นคำนามหมายถึงผู้เกิดผุดขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยพ่อแม่อาศัยอดีตกรรมได้แก่เทวดาพรหมสัตว์นรกเปรตอสุรกาย) อยู่เชิงเขาไกลลาสก่อนทศกัณฐ์ได้ใช้กายดุริยางค์บำเรอพระอิศวรจนพระอิศวรพอใจภายหลังได้ทูลขอพรจากพระอิศวรให้ไปเกิดเป็นทศกัณฐ์ความว่า (พิมพ์อักขรวิธีตามต้นฉบับ)
ฝ่ายอสูรนนทุกก็ไปบังเกิดเปนอุปปาติกขึ้นที่เชิงเขาพระไตรลาศดุจพระนารายณ์ประสาทพรให้แล้วก็กระทำความเพียรบูชาพระปะระเมศวรด้วยกายดุริยางค์คือไปเกบเอาสากอสุพเก่าของตัวมาเอากระดูกศีสะมาทำกะลาซอเอากระดูกสันหลังมาทำเปนทวนซอเอาหนังศีสะเปนหนังขึงซอเอาเอนในกายเป็นสายซอแล้วก็สีซอถวายพระปะระเมศวรๆได้ทรงไพรเราะยิ่งนักจึงตรัสถามเองกระทำความเพียรบำเรอกูดังนี้เพื่อประโยชน์สิ่งดังฤๅอสุรอุปปาติกะก็กราบทูลว่าข้าพเจ้าตายลงบัตรนี้จะขอไปบังเกิดเปนอสุรเชื้อพรหมในลงกาทวีปให้ข้าพเจ้ามีเศียร๑๐เศียรมีภักตร์๑๐ภักตร์มีกร๒๐กรทรงเทพอาวุธทั้ง๒๐กรแล้วขอให้ข้าพเจ้ามีมหิทธิฤทธิอันยิ่งจะได้รองบาทยุคลพระองค์ต่อไปพระปะระเมศวรก็ประสิทธิ์พระพรให้ตามที่อสุรอุปปาติก
ปราถนาฝ่ายอสุรอุปปาติกได้รับพระพรแล้วก็กราบถวายบังคมลา
จุติลงมาปฏิสนธิในครรภนางรัชฎาเทวีมะเหษีท้าวมลัสเตียนพรหมในพิภพลงกาทวีป
เกร็ดตอนนี้มีภาพจิตรกรรมที่ระเบียงคดวัดพระศรีรัตนศาสดารามกรุงเทพมหานครเขียนเป็นคนผอมหนังหุ้มกระดูกนั่งสีซอหัวกะโหลกตัวเองอยู่ปากถ้ำเข้าใจว่าภาพนี้คือทศกัณฐ์ตอนที่เกิดเป็นอุปปาติกะบำเรอพระอิศวรด้วยกายดุริยางค์