ลุงตู่จะไปทางไหน ?

การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายของคนในวงการเมือง มองได้ว่าน่าจะเกิดความขัดแย้งกันอย่างรุนแรงภายในพรรคพลังประชารัฐที่มีนักการเมืองหลายก๊กหลายเหล่าไปรวมกัน และได้เห็นความเด็ดเดี่ยวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในการจัดการปัญหาโดยไม่หวั่นว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับรัฐนาวาที่กำลังโคลงเคลงฝ่ากระแสคลื่นลมอยู่ในเวลานี้

            แทบไม่มีใครเชื่อที่การปลด 2 รัฐมนตรีชนิดสายฟ้าแลบในครั้งนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเป็นพี่ใหญ่ของ 3 ป.แห่งบูรพาพยัคฆ์ ที่ พล.อ.ประยุทธ์ให้ความเคารพนับถือจะไม่รู้เรื่องมาก่อน กล่าวกันว่าการลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในประเด็น “บัตร 2 ใบ” ซึ่ง ร.อ.ธรรมนัสเป็นหัวหอกประสานไปยังพรรคการเมืองต่าง ๆ ให้ช่วยกันลงคะแนนเพื่อให้ร่างดังกล่าวผ่านความเห็นชอบ สอดรับกับการออกมาสนับสนุนให้ผ่านร่างของนายทักษิณ ชินวัตร หรือ “พี่โทนี่” ในคลับเฮ้าท์ โดยหวังผลให้การเลือกตั้ง ส.ส.ครั้งหน้า “พรรคเพื่อไทย” จะกลับมาผงาดเป็นเสียงข้างมาก กรุยทางนิรโทษกรรมให้แก่ตัวเองและบริวารที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศได้กลับประเทศอย่างเท่ ๆ  

            ต้องไม่ลืมว่าประวัติทางการเมืองของ ร.อ.ธรรมนัส ผูกพันแนบแน่นกับพรรคการเมืองในซีกของนายทักษิณมาโดยตลอดตั้งแต่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทย อีกทั้งนักการเมืองในซีกพรรคเพื่อไทยที่ย้ายมาสังกัดพรรคพลังประชารัฐในช่วงนี้ก็มีจำนวนไม่น้อย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองที่ย้ายสังกัดบ่อยครั้ง หาความแน่นอนอะไรไม่ได้ เมื่อการเลือกตั้งใหญ่ในครั้งหน้ามีเดิมพันสูง เป็นเกมที่อดีตนักการเมืองผู้ยิ่งใหญ่หวังหวนคืนสู่อำนาจโดยใช้หนทางการเลือกตั้งที่มีความชอบธรรมและนักการเมืองโลเลมาเป็นเครื่องมือเหมือนเช่นอดีตที่ผ่านมา แม้จะต้องใช้ปัจจัยในการกรุยทางมากเท่าใดก็พร้อมทุ่มสู้ขาดใจ  

            ในสภาวะทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์เหมือนกำลังอยู่ท่ามกลางหอกข้างแคร่ในพรรคที่สนับสนุนตัวเอง ขณะเดียวกันพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลบางพรรคบวกกับสมาชิกวุฒิสภาอีกเกือบ 150 เสียง ก็เห็นดีเห็นงามกับประเด็นบัตร 2 ใบ ทำให้ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญผ่านฉลุย ดังนั้นการปลด ร.อ.ธรรมนัสและ ดร.นฤมล จึงน่าจะมีอะไรลึก ๆ ที่ พล.อ.ประยุทธ์รู้อยู่เต็มอกแต่ไม่อยู่ในกาละที่จะพูดอะไรได้ การเมืองนับจากวันนี้เป็นต้นไปยากจะคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้น รัฐนาวา พล.อ.ประยุทธ์ ที่กำลังโคลงเคลงอย่างหนักจะแล่นต่อไปได้สักกี่น้ำ หากประเมินสถานการณ์แล้วไปไม่ไหว เชื่อว่าการ “ยุบสภา” จะเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการลงพระปรมาภิไธยผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อให้การเลือกตั้งครั้งหน้ายังคงใช้บัตรใบเดียวต่อไปเหมือนเดิม.

error: ขอสงวนสิทธิ์ ในการคัดลอกบทความ !!