คนจำนวนมากไม่เข้าใจว่าการเรียกร้องต้องการสิ่งใด ๆ ในประเทศนี้ เหตุใดจึงต้องแสดงออกในทางละเมิดกฎหมายเพื่อให้ได้สิ่งที่ตัวเองหรือกลุ่มของตัวเองต้องการ เช่น การชุมนุมปิดถนน ปิดสถานที่ราชการ ยึดทำเนียบรัฐบาล บุกอาคารรัฐสภา ยึดสนามบิน เผา-ทำลายสถานที่ ดูหมิ่น-หมิ่นประมาทบุคคล จาบจ้วงล่วงละเมิดสถาบันเบื้องสูง รวมถึงกรณีก่อเหตุความรุนแรงด้วยวิธีการต่าง ๆ อันก่อความเสียหายต่อทรัพย์สินของทางราชการและเอกชน หลายเหตุการณ์มีผู้บาดเจ็บล้มตายจำนวนไม่น้อย หลายคนกลายเป็นผู้ทุพพลภาพ ถูกดำเนินคดี ถูกลงโทษจำคุก ถูกให้ชดใช้ค่าเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน ยังไม่รวมถึงความสูญเสียทางเศรษฐกิจในวงกว้าง ภาพพจน์ประเทศเสียหาย อันเนื่องจากเหตุการณ์ชุมนุม
การใช้สิทธิเสรีภาพของบุคคลหรือกลุ่มบุคคล รัฐธรรมนูญของแต่ละประเทศมีและบังคับใช้ไม่เหมือนกัน ส่วนใหญ่ไม่ห้ามการชุมนุม แต่ขีดกรอบให้แสดงออกโดยตราไว้ในกฎหมายที่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภามาแล้ว เมื่อมีผู้ละเมิด ผู้มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายก็จำต้องดำเนินการควบคุมมิให้การละเมิดลุกลามบานปลาย ยุทธวิธีการบังคับใช้กฎหมายบางประเทศก็จัดหนักปราบปรามอย่างเด็ดขาดโดยกำลังอาวุธ บางประเทศก็มีมาตรการจากเบาไปหาหนัก เริ่มจากการเจรจาเพื่อขอให้เคารพกฎหมาย คุยกันไม่รู้เรื่องก็ดำเนินการตามขั้นตอน แต่หากเจ้าหน้าที่รัฐไม่ดำเนินการใด ๆ เลย ก็จะไม่พ้นข้อหาละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
ประเทศเราได้ผ่านเหตุการณ์การชุมนุมใหญ่ทางการเมืองมาแล้วหลายเหตุการณ์ กระทั่งทุกวันนี้ดูเหมือนว่าเป็นเรื่องปกติ ไม่ว่ารัฐบาลไหนขึ้นมาบริหารประเทศ ก็จะมีฝ่ายที่มีความเห็นไม่ตรงกับรัฐบาลแล้วหาเหตุออกมาเคลื่อนไหวชุมนุมหรืออยู่เบื้องหลังการชุมนุม การชุมนุมแต่ละครั้งก็จะมีกองเชียร์ของทั้งฝ่ายเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเสมอ เมื่อถึงขั้นเลือดตกยางออกหรือฮึ่ม ๆ ว่าจะมีการปะทะกัน ผู้ที่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้คือ “ทหาร” ก็จะออกมาแสดงบทบาทยุติศึกด้วยการปฏิวัติหรือกระทำรัฐประหารเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ถ้าไม่สำเร็จก็เป็นกบฏ ถ้าสำเร็จและตั้งตนเป็นรัฐบาล ก็จะเป็นรัฐบาลรัฏฐาธิปัตย์
คงต้องย้อนมองกันว่ากฎหมายไม่เข้มแข็ง หรือเข้มแข็งแต่การบังคับใช้กฎหมายไม่ได้เรื่อง การชุมนุมป่วนบ้านเมืองตลอดมาหลายทศวรรษจึงเกิดขึ้นไม่รู้จบสิ้น ซึ่งความจริงเหตุความขัดแย้งต่าง ๆ ในสังคมจะไปจบลงที่ศาลสถิตยุติธรรม แต่ทุกวันนี้กลับมีขบวนการกดดันการวินิจฉัยคดีของศาลทั้งต่อหน้าและลับหลัง จึงมีคำถามว่าถ้าไม่พึ่งศาลสถิตยุติธรรมแล้วจะพึ่งพาอะไรได้ คำวินิจฉัยหรือคำพิพากษาของศาลไม่ว่าศาลใดก็ตาม ย่อมกอปรด้วยเหตุและผลบนตัวอักษรเป็นหลักฐานสำคัญ มีองค์คณะร่วมพิจารณาคดีกันอย่างรอบคอบ ทั้งข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย ถ้าข้อขัดแย้งไม่ “ยุติ” ที่ศาล แต่ไปยุติที่แรงกดดันของขบวนการนอกศาล ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองและความเป็นประเทศชาติก็ไม่สามารถดำรงอยู่ต่อไปได้.