เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 6 กันยายน สัตว์แพทย์หญิง ราชาวดี จันทรา สัตวแพทย์ประจำศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน (ศวทบ.) สังกัดสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง และเจ้าหน้าที่ศูนย์ฯ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 เดินทางมาที่ หาดทรายเม็ดแรก ต,แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ร่วมกันผ่าพิสูจน์วาฬ ที่พบลอยตายเกยตื้นที่บริเวณชายหาด
นายมนู อรัญพันธ์ ประมงพื้นบ้าน อาสาสมัคร ทสม.อ.บ้านแหลม และผู้ทรงคุณวุฒิด้านอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง จ.เพชรบุรี ว่า เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมา มีชาวประมงพบซากวาฬ สภาพภายนอกอืดบวม ด้านซ้ายของลำตัวพบการไหม้ของผิวหนังเนื่องจากแสงแดด ถูกคลื่นซัดมาติดอยู่ที่บริเวณเขื่อนหินกันคลื่น ปากร่องน้ำคลองอีแอด ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี จึงประสานแจ้งนายมนตรี หามนตรี ผอ.ส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 ดำเนินการลากซากมาที่หาดทรายเม็ดแรก และประสานเจ้าหน้าที่มาตรวจพิสูจน์ซาก เพื่อหาสาเหตุการตาย
สอบถาม สัตว์แพทย์หญิง ราชาวดี จันทรา ทราบว่า วาฬดังกล่าว ยาวประมาณ 5.27 เมตร หนักประมาณ 6 ตัน เพศผู้ อายุไม่เกิน 2 ปี เป็นลูกวาฬที่กำลังอยู่ระหว่างช่วงผลัดการกินนมและเข้าสู่การกินอาหารอื่น เบื้องต้นระบุได้เพียงว่าเป็นวาฬ ชนิดซี่กรองไม่ทราบชนิด ( วาฬบรูด้าหรือวาฬโอมูระหรือชนิดอื่น) แต่คาดว่าตัวนี้จะไม่ใช่วาฬบรูด้าเนื่องจากวาฬบรูด้าจะมีสันที่หัว 2 สัน แต่ตัวที่พบนี้มีสันที่หัวเพียงสันเดียว และยืนยันด้วยซี่โครงซี่แรก จากการสำรวจจำนวนของวาฬบรูด้าที่ผ่านมาไม่มีการตรวจพบว่าวาฬตัวนี้หากินในละแวกทะเลแถบ จ.เพชรบุรี
ส่วนผลการผ่าพิสูจน์เบื้องต้นบริเวณด้านนอกไม่พบบาดแผล ในกระเพาะไม่พบอาหาร อาจเป็นไปได้ว่าลูกวาฬตัวนี้อาจเกิดพลัดหลงกับแม่และยังไม่สามารถหากินด้วยตนเองได้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการผ่าพิสูจน์ และเก็บกระดูกวาฬเพื่อไปทำการตรวจสอบ ส่วนซากเนื้อได้ทำการกลบฝังที่บริเวณชายหาดทรายเม็ดแรก ต.แหลมผักเบี้ย อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี
