





ผงเสาวรส ๓๓๓ รร.บ้านห้วยกวางจริง คว้า ๑ ใน ๑๐๐ นวัตกรรม โครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ระดับประเทศ
“ผงเสาวรส ๓๓๓ แห่งเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก” ผลงานนวัตกรรมของ ด.ญ.ปรัชญา เรืองรุ่งทิพากร ด.ญ.นิรุชา ขำตา และ ด.ช.วันชนะ ป้องหลง นักเรียนชั้น ม.๓ โรงเรียนบ้านห้วยกวางจริง ต.พุสวรรค์ อ.แก่งกระจาน ได้รับคัดเลือกให้เป็น ๑ ใน ๑๐๐ นวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนงานอาชีพและผลิตภัณฑ์ โครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ระดับประเทศ จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) โดยมี ครูอรทัย บุญมา ครูรัมณียาจงอนุรักษ์ ครูที่ปรึกษา นายปริญญา พวงจันทร์ ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านห้วยกวางจริง ให้การสนับสนุน
นายปริญญา พวงจันทร์ ผอ.รร.บ้านห้วยกวางจริงกล่าวว่า โรงเรียนบ้านห้วยกวางจริงสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบุรี เขต ๒ เปิดการเรียนการสอนให้กับนักเรียนระดับชั้นอนุบาล ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ และระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑-๓ ทั้งนี้ทาง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) มีการประชาสัมพันธ์ให้โรงเรียนร่วมส่งผลงานประกวดนวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนงานอาชีพและผลิตภัณฑ์ “โครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ระดับประเทศ” โดยทางโรงเรียนบ้านห้วยกวางจริง ได้ส่งผลงานเข้าประกวดในชื่อนวัตกรรม “ผงเสาวรส ๓๓๓ แห่งเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก” ซึ่งเป็นนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มสมุนไพร และผลงานนวัตกรรมนี้ ได้รับการคัดเลือกให้เป็น ๑ ใน ๑๐๐ นวัตกรรม ที่ได้รับการสนับสนุนเงินทุนจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อไปพัฒนาต่อยอดผลงานนวัตกรรมตามแผนที่วางไว้
ผอ.รร.บ้านห้วยกวางจริง กล่าวต่ออีกว่า จุดเริ่มต้นของนวัตกรรม เริ่มต้นจากการที่ยูเนสโก UNESCO หรือองค์การวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ คัดเลือกจังหวัดเพชรบุรีให้เข้าร่วมเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโก ประจำปี ๒๐๒๑ ร่วมกับอีก ๔๘ เมืองทั่วโลก ตามการแต่งตั้งของ ออเดรย์อาซูเลย์ ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การยูเนสโก ซึ่งเพชรบุรีถูกคัดเลือกให้อยู่ในกลุ่มเมืองแห่งการสร้างสรรค์ด้านอาหาร
“แน่นอนว่าความโดดเด่นในเรื่องของอาหารนั้นเป็นเกณฑ์สำคัญที่ใช้ในการตัดสินคัดเลือกเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหาร ซึ่งเพชรบุรีนั้นมีความโดดเด่นในฐานะของ ‘เมืองสามรส’ อันหมายถึงแหล่งผลิตที่ใหญ่ที่สุดของวัตถุดิบสำคัญ ๓ อย่างของไทย อย่างแรกคือ ‘รสเค็ม’ จากเกลือสมุทรในพื้นที่อำเภอบ้านแหลม เป็นพื้นที่ติดทะเล ทำอาชีพนาเกลือ และพื้นที่การทำนาเกลือที่เพชรบุรี นับว่ามีจำนวนมากที่สุดในประเทศไทย รสหวานในฐานะแหล่งปลูกต้นตาลโตนด ใช้ในการผลิตน้ำตาลโตนดชั้นดี ซึ่งเป็นวัตถุดิบที่ใช้ในการประกอบอาหารคาวหวานสารพัด และรสเปรี้ยวของมะนาวคุณภาพเยี่ยม”
โรงเรียนบ้านห้วยกวางจริง มีการจัดตั้งกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์ในชุมชนโดยกลุ่มนักเรียน ในชื่อกลุ่ม “กวางน้อยร้อยล้าน” เป็นกลุ่มที่มีการเพาะต้นกล้าเสาวรส และได้นำความรู้เกี่ยวกับภูมิปัญญาท้องถิ่นมาพัฒนาแปรรูปเสาวรส เนื่องจากเล็งเห็นถึงประโยชน์ของผลเสาวรสที่มีการเพาะปลูกจำนวนมากในชุมชน ในช่วงแรกทางกลุ่มได้แปรรูปเป็นน้ำเสาวรสพร้อมดื่ม แต่พบว่าผลิตภัณฑ์ยังไม่มีความโดดเด่นที่ต่างจากท้องตลาด จึงได้คิดพัฒนาต่อยอดจากเดิม ปรับเปลี่ยนรูปแบบผลิตภัณฑ์เป็นรูปแบบผงพร้อมชง เพื่อยืดอายุการเก็บรักษาและคงรสชาติของน้ำเสาวรสไว้ และเพิ่มความโดดเด่นในรสชาติของน้ำเสาวรส โดยการใช้ ๓ วัตถุดิบสำคัญของเพชรบุรี ได้แก่ เกลือสมุทร (บ้านแหลม) น้ำตาลโตนด (บ้านลาด) และมะนาว (ท่ายาง) เสริมรสชาติให้กลมกล่อมครบสามรส สมชื่อเสียงเพชรบุรีเมืองสามรส ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ภายใต้ชื่อ “ผงเสาวรส ๓๓๓ แห่งเมืองสร้างสรรค์ด้านอาหารของยูเนสโก” ในการดำเนินงานครั้งนี้ เริ่มแรกได้มีการให้นักเรียนไปศึกษาแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียน คือ การลงพื้นที่สวนเสาวรส เรียนรู้การเพาะปลูก และศึกษาดูงานที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดเพชรบุรี เรื่อง “ทรัพย์สินทางปัญญา” เพื่อมาปรับประยุกต์ใช้ในธุรกิจ
สำหรับกระบวนการและขั้นตอนการแปรรูปเสาวรส ขั้นตอนแรก คือ การนำผลเสาวรสสดมาล้างน้ำแล้วผ่าควั่นเนื้อเสาวรส แล้วนำไปปั่นด้วยเครื่องปั่นน้ำผลไม้ ต่อจากนั้นนำมาเคี่ยวด้วยไอน้ำเพื่อให้เกิดการระเหยจนได้น้ำเสาวรสเข้มข้นที่เหนียวเกือบแห้ง หลังจากนั้นนำไปตากแดดบนกระดาษฟอยล์จนกว่าน้ำเสาวรสจะแห้งสนิท แล้วนำมาปั่นให้เป็นผง ด้วยการผสมกับน้ำตาลโตนดผง น้ำตาลไอซิ่ง และตัดรสชาติด้วยเกลือเล็กน้อย จะได้ผงเสาวรสตามที่ต้องการ และสุดท้ายก็เป็นขั้นตอนของการบรรจุภัณฑ์
ผลิตภัณฑ์ผงเสาวรส ๓๓๓ เป็นผลิตภัณฑ์น้ำเสาวรสที่แปรรูปมาจากผลเสาวรส ซึ่งอยู่ในรูปแบบผงเครื่องดื่มสำเร็จรูปพร้อมชง ได้ถูกพัฒนาและปรับปรุงสูตรจนเป็นที่ยอมรับ และได้มีการจัดจำหน่ายที่ร้านค้าชุมชนตำบลพุสวรรค์ หรือหากท่านใดสนใจผลิตภัณฑ์ก็สามารถติดต่อเข้ามาทางเพจ Facebook “โรงเรียนบ้านห้วยกวางจริง” รายได้จากการขายสินค้าจะนำมาเป็นทุนในการผลิตสินค้าเพิ่มเติมครั้งต่อไป ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวถือเป็นการฝึกทักษะนักเรียนในเรื่องการทำธุรกิจเบื้องต้น เพื่อให้สามารถนำไปต่อยอดเป็นอาชีพได้ในอนาคต.