เพื่อประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ฯ

หลายคนวิตกกังวลว่า เด็ก ๆ และเยาวชนรุ่นใหม่ จะไม่เข้าใจการปกครองระบอบประชาธิปไตย จะไม่เห็นคุณค่าของสถาบันกษัตริย์ที่อยู่คู่สังคมไทยมานับร้อยนับพันปี ความวิตกกังวลนี้ยิ่งทวีขึ้น เมื่อไม่เห็นมีวิชา “หน้าที่พลเมือง” ในห้องเรียนชั้นประถมเหมือนเมื่อสมัยก่อน ๒๕๒๐ สภาพการณ์เช่นว่าทำให้มีคำถาม และการต่อว่าต่อขานกันมากมาย ในประเด็นว่า เรื่องเหล่านี้เป็นภาระหน้าที่ของใคร? ใครต้องรับผิดชอบ? คนไทยจะทำอย่างไรกันดี? จะทำเมื่อไร? ฯลฯ

       แน่นอน ถ้าคนรุ่นต่อ ๆ ไป ไม่เข้าใจว่าประชาธิปไตยคืออะไร ประชาชนในสังคมประชาธิปไตยควรทำอะไรบ้าง ประเทศนี้ต้องวุ่นวายแน่ ๆ เพราะจะมีผู้คนมากมายออกมาใช้สิทธิเรียกร้องอะไร ๆ แปลก ๆ เช่น เรียกร้อง
ให้บางคนมาเป็นผู้นำประเทศ ทั้ง ๆ ที่ขัดรัฐธรรมนูญ เรียกร้องให้อภัยโทษบางคน ทั้ง ๆ ที่เจ้าตัวยังไม่เคยได้รับโทษเลย ประเทศนี้จะต้องมีผู้คนออกมาพยายามทำหน้าที่ประหลาด ๆ เช่น ตั้งโต๊ะพิพากษาเรื่องราวต่าง ๆ กันเอง บีบบังคับให้หน่วยงานต่าง ๆ กระทำการที่ขัดกฎหมาย ฯลฯ

       ในเรื่องสถาบันกษัตริย์ก็เช่นกัน ลักษณะการมีสถาบันกษัตริย์ของมนุษย์ตั้งแต่สมัยโบราณมา เป็นธรรมชาติของสังคม เช่นเดียวกับธรรมชาติในวิทยาศาสตร์ คือต้องมีศูนย์กลาง ตั้งแต่ระบบสุริยะ จนถึงอะตอม ก็เป็นไปตามหลักการนี้ สุริยจักรวาลมีดวงอาทิตย์เป็นศูนย์กลาง จึงดำรงเป็นระบบอยู่ได้ อะตอมอันเป็นสภาพเล็กที่สุด ที่แสดงความเป็นธาตุต่าง ๆ ได้ ก็ต้องมีนิวเคลียสเป็นศูนย์กลาง คุณค่าของสถาบันกษัตริย์
ไม่ว่าจะในด้านเป็นศูนย์กลางของความเป็นชาติเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือเป็นส่วนช่วยแก้ปัญหายามบ้านเมืองวิกฤติร้ายแรง เป็นสิ่งที่ควรแก่การสนับสนุนให้สังคมไทยตระหนักและเรียนรู้ แต่น่าเสียดายที่คนรุ่นใหม่อีกมากมาย ไม่มีโอกาสรับรู้เรื่องราวเหล่านี้มาช้านาน

       มาบัดนี้ น่าดีใจ ที่เรื่องของประชาธิปไตยและสถาบันกษัตริย์ ได้รับการพิจารณาว่าเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องพิจารณาเรื่องแรกในการปฏิรูปการเมือง รัฐสภาดูจะให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นอันดับต้น ๆ สถาบันพระปกเกล้า อันเป็นสถาบันให้การศึกษาสังกัดรัฐสภา ได้รับมอบหมายให้ลงมือเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจเรื่อง “การปกครองตามระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข” แก่เยาวชนและประชาชนอย่างเต็มที่ สถาบันพระปกเกล้า ได้ศึกษาแนวทางการให้ความรู้เรื่องนี้ที่ได้ผลมานานนับเดือน ตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๔ แล้วได้สร้างกระบวนการอบรมที่สนุก น่าสนใจ และให้ความรู้พอสมควรในเวลาอันสั้น จากนั้น
ได้ทดลองใช้กับกลุ่มตัวอย่างในเดือนมกราคม ๒๕๖๕ แล้วปรับปรุง จนได้ผลลัพธ์เป็นกระบวนการที่ลงตัว เชื่อถือได้

       สถาบันพระปกเกล้า ได้มอบหมายให้ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง ของสถาบันตามจังหวัดต่าง ๆ (อันมีอยู่ ๕๔ ศูนย์ / ๕๔ จังหวัด) เริ่มการอบรมโดยใช้กระบวนการ คลิปวิดีโอเพาเวอร์พอยท์ อุปกรณ์ต่าง ๆ ฯลฯ ที่ส่วนกลางได้จัดทำให้ ในวันเสาร์อาทิตย์ที่ ๒ – ๓ เมษายน ๒๕๖๕ นี้

       ศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้าฯ จังหวัดเพชรบุรี ก็ลงมือทำงานเรื่องนี้ด้วย ตามแผนซึ่งวางไว้คือ มีการทำแผนการอบรมโดยละเอียด โดยปรับปรุงจากฉบับของสถาบันพระปกเกล้า มีการจัดหาวิทยากรที่เหมาะสม สรรหาเยาวชนจากส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่เพชรบุรี ประมาณ ๘๐ คน และจัดอบรมพร้อมกับศูนย์อื่น ๆ ส่วนสถานที่นั้น ใช้บริการขององค์การบริหารส่วนตำบลต้นมะม่วง
อำเภอเมืองฯ กำหนดการโดยย่อคือ วันที่ ๒ ตั้งแต่ ๘.๓๐ น. ถึง ๑๒.๐๐ น. เป็นพิธีเปิดร่วมกับสถาบันพระปกเกล้า และอีก ๕๔ จังหวัด แล้ววันที่ ๓ ตั้งแต่ ๘.๓๐ น. ถึง ๑๖.๓๐ น. เป็นการอบรมเยาวชน

       ท่านที่รักระบอบประชาธิปไตย เห็นคุณค่า­­­­ของสถาบันกษัตริย์ ถ้าพอเจียดเวลาได้ ขอเชิญไปให้กำลังใจกันนะครับ

error: ขอสงวนสิทธิ์ ในการคัดลอกบทความ !!