เห็นข้อความในหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ฉบับวันที่ ๑๙ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๖๕ หน้า ๓ พาดหัวคอลัมน์ว่า การเมืองเรื่องโลกีย์ นักข่าว
นำข้อความว่า “โรคซ้ำ กรรมซัด วิบัติเป็น” มาใช้ร่วมกับสถานการณ์ที่กำลังเป็นข่าวฉาวโฉ่ของผู้บริหารพรรคประชาธิปัตย์ กับกรณีที่ นายปริญญ์พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรค หัวหน้าทีมเศรษฐกิจของพรรคประชาธิปัตย์ และยังเป็นผู้อำนวยการการเลือกตั้ง กทม. ซึ่งจะหย่อนบัตรช่วงวันที่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ นี้ ถูกออกหมายจับตามข้อกล่าวหาข่มขื่น กระทำชำเรา และกระทำอนาจารต่อหน้าธารกำนัล
ซึ่งมีผู้เสียหายรวมแล้วกว่า ๑๐ คน เข้าร้องเรียนกับ ทนายษิทราเบี้ยบังเกิด ความว่า
…พรรคประชาธิปัตย์อ้างว่าเป็นสถาบันการเมืองที่เก่าแก่ที่สุด กำลังเผชิญภาวะโรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น…
โรคซ้ำกรรมซัดวิบัติ เป็นกลอนวรรคหนึ่งในนิราศภูเขาทอง
ของ สุนทรภู่ ท่านแต่งขณะที่บวชอยู่ที่วัดราชบูรณะ ตอนที่ออกเดินทาง
จากวัดราชบูรณะสุนทรภู่ครวญถึงรัชกาลที่ ๒ ขณะที่เรือแล่นผ่านพระบรมมหาราชวัง ความว่า
ถึงหน้าวังดังหนึ่งใจจะขาด คิดถึงบาทบพิตรอดิศร
โอ้ผ่านเกล้าเจ้าประคุณของสุนทร
แต่ปางก่อนเคยเฝ้าทุกเช้าเย็น
พระนิพพานปานประหนึ่งศีรษะขาด
ด้วยไร้ญาติยากแค้นถึงแสนเข็ญ
ทั้งโรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น
ไม่เล็งเห็นที่ซึ่งจะพึ่งพา
โรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น เป็นการจัดเรียงคำตามจังหวะ
การแต่งกลอนเพื่อให้เกิดความไพเราะ ซึ่งประกอบด้วยชุดคำ ได้แก่ โรคซ้ำ กรรมซัด และ วิบัติเป็น
ความหมายของแต่ละคำตามที่พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔ นิยามไว้ คือ
โรคซ้ำ โรค เป็นคำนาม หมายถึง ภาวะที่ร่างกายทำงาน
ได้ไม่เป็นปรกติเนื่องจากเชื้อโรคเป็นต้น ซ้ำ เป็นคำวิเศษณ์ หมายถึง มีหรือทำอย่างเดียวกันอีกครั้งหนึ่งหรือหลาย ๆ ครั้ง โรคซ้ำ จึงหมายถึง
โรคภัยต่าง ๆ ที่เป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก รักษาไม่หายสักที
กรรมซัด กรรม เป็นคำนาม หมายถึง การกระทำ, การงาน ซัด เป็น
คำกริยา หมายถึง สาดโดยแรง กรรมซัด
จึงมีความหมายว่า ผลที่ทำไว้นั้นย้อนกลับมาหาตนเอง
วิบัติเป็น วิบัติ เป็นคำนาม หมายถึง
พิบัติ, ความฉิบหาย, ความหายนะ,
ความเป็นอัปมงคล เป็น คือคำกริยา
สำหรับแสดงความสัมพันธ์ของคำหน้า
และคำหลังมีภาวะ คือ ความมี ความเป็น
เกี่ยวข้องกันอย่างไร วิบัติเป็น จึงมีความหมายว่า มีความฉิบหายเกิดขึ้น
ดังนั้นเมื่อนำ โรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น มาใช้เป็นสำนวน
จึงมีความหมายว่า เรื่องร้ายหรือสิ่งไม่ดีทั้งปวงที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน เรื่องเก่ายังสะสางไม่แล้วเสร็จก็เกิดเรื่องใหม่ทับถมซ้ำเข้าไปอีก
โรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น ที่เกิดขึ้นกับพรรคประชาธิปัตย์
เป็นความคิดเห็นจากคนนอกที่มองพรรค เพราะหลายคนรู้ดีว่า
พรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคการเมืองเก่าแก่ที่ผ่านร้อนผ่านหนาว
มาทุกฤดูกาล
แต่จู่ ๆ ก็เกิดเรื่องเสื่อมเสียเพราะคนในพรรคตัวเอง คิดทำ
เรื่องไม่น่ารักขึ้น (คำว่า ไม่น่ารัก อาจารย์ศานติ ภักดีคำ ท่านแปลตามรูปศัพท์ภาษาสันสกฤตให้ดูสละสลวยขึ้นจากคำว่า อัปรีย์ อัป แปลว่า ไม่ สมาสกับคำว่า ปิยะ แปลว่า น่ารัก)
ที่ผมว่าไม่น่ารัก ก็เพราะเล่นแสดงพฤติกรรมหื่น ทั้งลวนลาม
ข่มขืน บีบนมล้วงของลับ (ตามข่าว) ทำให้สถานการณ์ในพรรคเกิดความระส่ำระส่าย จนสร้างความอับอายขายขี้หน้าให้กับพรรค สมาชิกพรรคหลายคนทนเสนอหน้าอยู่ไม่ได้ประกาศลาออกกันเป็นทิวแถว ซึ่งจากเรื่องที่เกิดขึ้นส่งมีผลต่อแต้มคะแนนความศรัทธา
ที่ลดลงไปมาก เพราะทุกวันนี้คะแนนความนิยมของพรรคก็ลดฮวบฮาบลงไปทุกวันเสี่ยงที่จะอยู่ต่อไปไม่รอด ดูจากผลคะแนนเลือกตั้งครั้งที่ผ่าน ๆ มา ทำให้เห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์มีคะแนนความนิยมลดลงจริง ๆ
พอมาเกิดเรื่องนี้ขึ้นอีก ไหนจะต้องพยุงพรรคให้อยู่รอดต่อไป
แบบหืดขึ้นคอแล้ว ยังต้องมากู้หน้าพรรคขึ้นมาอีก ไหนคนกันเองที่เสียงแตกพยายามปลิ้นไส้กันเองอีก แบบนี้แหละที่เข้ากับสำนวน
โรคซ้ำกรรมซัดวิบัติเป็น
จริงไหม ?
