


แต่เดิมมากฎหมายเกี่ยวกับการจราจรของประเทศไทยบังคับไว้ว่าต่อให้ทางหลวงดีขนาดไหนรถว่างแค่ไหนแต่ก็จำกัดความเร็วตามกฎหมายไว้แค่ไม่เกิน90กิโลเมตรต่อชั่วโมงคนที่ขับรถยนต์หลายคนบ่นอึดอัดกับข้อจำกัดนี้ และรถยนต์ส่วนใหญ่มักจะใช้ความเร็วเกินกว่านี้อยู่แล้วเมื่อมีโอกาสแต่ครั้นเข้าเดือนกันยายน 2564 กระทรวงคมนาคมได้เสนอแผนที่จะให้ถนนบางสายบางช่วงใช้ความเร็วได้ถึง 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงนักซิ่งทั้งหลายคงโล่งใจกันไปได้บ้าง
อย่างไรก็ตามเมื่อความเร็วของรถเพิ่มขึ้น เรื่องที่ต้องระวังอย่างยิ่งคืออุบัติเหตุซึ่งมีโอกาสเกิดขึ้นหลายรูปแบบเหลือเกินในที่นี้จะขอกล่าวถึงอุบัติเหตุอย่างหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นได้ง่ายมากบนถนนทั่วไปคือเรื่องรถยนต์ชนท้ายจักรยานยนต์ที่ไม่มีไฟท้าย
เรื่องไฟท้ายจักรยานยนต์นี้ค่าปรับตามประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติพ.ศ. 2563 จะตกราว 400 บาทเพราะผิดกฎกระทรวง (ฉบับที่2) พ.ศ. 2522 ข้อ 2 (3) (ก) ที่ออกตามความในพระราชบัญญัติจราจรทางบกซึ่งในข้อนี้เป็นเรื่องไฟท้ายรถจักรยานยนต์
ทุกคนที่เคยขับรถยนต์ย่อมรู้ดีว่าเมื่อค่ำมืดลงสิ่งที่จะบ่งบอกให้คนขับรถรู้ว่ามีรถหรือยานพาหนะใดอยู่บนถนนตรงไหนคือไฟเท่านั้นเอง โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งไฟถนนไม่สว่างมากนักถ้าหากไม่มีไฟรถบอกเสียแล้วยามกลางคืนจะแทบไม่รู้เลยว่ามีรถขับอยู่หรือจอดอยู่!
บางคนที่ไม่คุ้นกับเรื่องเช่นนี้อาจคิดว่า “คนตัวเบ้อเริ่มกำลังเดินอยู่ – รถทั้งคันกำลังขับอยู่ทำไมจะมองไม่เห็น” … ก็ต้องยืนยันว่ามีโอกาสมากกว่ามากที่คนขับรถเร็วๆจะไม่เห็นเลยไม่ว่าคนเดินหรือรถวิ่งอยู่ข้างหน้าถ้าหากไม่มีไฟหน้าหรือไฟท้ายสว่างกระจ่างแจ้งบอกให้ชัดผู้เขียนเองก็มีบ่อยครั้งที่เกือบชนคนซึ่งสวมชุดสีดำๆและเกือบชนรถจักรยานยนต์ที่ขับนำหน้าอยู่เพราะไม่มีไฟท้ายสีแดงๆให้เห็น คิดแล้วยังหวาดเสียวที่เกือบเกิดอุบัติเหตุเช่นนี้อยู่บ่อยครั้งและเกือบขับรถชนคนตายเสียหลายครั้ง
ถามจริงๆ …
“รถเครื่องของท่านมีไฟท้ายหรือเปล่า?” (บางทีคิดว่ามีแต่จริงๆแล้วมันดับมันเสียไปตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้)
รถยนต์ก็เถอะมีบ่อยมากที่รถยนต์ไม่มีไฟท้าย!
อันตรายมากๆเลยครับเชื่อผมเถอะมันหมายถึงชีวิตเลยทีเดียว
เมื่อไรที่ท่านต้องขับขี่หรือขึ้นรถที่ไม่มีไฟท้ายเมื่อไรที่ท่านแต่งชุดมืดๆดำไปเดินริมถนนตอนกลางคืน …
เตรียมตัวตายได้!
เขาตายกันมาเยอะแล้วจริง ๆ บางคนคงยังจำเรื่องที่ชะอำได้ … เป็นเรื่องซึ่งเคยมีคนสวมชุดดำๆขับรถจักรยานยนต์ไม่มีไฟแล้วโดนรถชนตาย (แกขี่ย้อนศรเสียด้วย) และยังมีรายอื่นอีกมากอย่างไรก็ขอร้องนะครับ
อาจทำบุญทำทานมามากมั่นใจว่าถึงจะตายก็ได้ขึ้นสวรรค์แน่ … แต่ก็อย่างเพิ่งตายเลยนะเก็บชีวิตไว้ไปเที่ยวสนุกๆตอนโควิดหยุดระบาดกันดีกว่า
ตอนนี้รีบเช็กไฟท้ายรถกันก่อนนะ